cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #60 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:01:03 » |
|
 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่หมายกําหนดการพระราชพิธีทรงบําเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคตในหลวง รัชกาลที่ 9 ในวันศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม 2560
เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2560 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่หมายกําหนดการพระราชพิธีทรงบําเพ็ญพระราชกุศลครบรอบ 1 ปี วันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในวันศุกร์ ที่ 13 ตุลาคม โดยมีกําหนดการดังนี้
วันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม
เวลา 17.00 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดําเนินเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาททรงวางพวงมาลาของส่วนพระองค์ และพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 แล้วทรงจุดธูปเทียน เครื่องทองน้อย และเครื่องราชสักการะกราบถวายบังคมพระบรมศพ
โดยมีพระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์และสวดคาถาพิเศษสดับปกรณ์ เทศน์ สวดธรรมคาถา สดับปกรณ์ พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม จากนั้นเสด็จพระราชดําเนินกลับ
วันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม
เวลา 10.30 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดําเนินเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงจุด ธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ กราบถวายบังคมพระบรมศพ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจําพระชนมวารที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร
โดยมีพระสงฆ์ 30 รูป ที่สวดพระพุทธมนต์แต่วันก่อนถวายพรพระ จบ ทรงประเคนภัตตาหารพระสงฆ์รับพระราชทานฉันเสร็จแล้ว ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม และเจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีก 89 รูป เท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สวดมาติกา สดับปกรณ์ จากนั้นเสด็จพระราชดําเนินกลับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #69 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:09:17 » |
|
ข้อควรรู้ ก่อนเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร.9 ข้อน่ารู้เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วกับอีกหนึ่งวันสำคัญของพสกนิกรชาวไทย นั่นคืองานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 ซึ่งจะเป็นวันที่เราทุกคนต่างพร้อมใจกันน้อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยอย่างสมพระเกียรติ ซึ่งแน่นอนว่าประชาชนที่ไปร่วมงานพระราชพิธีย่อมมีจำนวนมาก และเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย วันนี้เราจึงมีข้อควรรู้สำหรับการเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับทุกฝ่าย
1. หมายกำหนดการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

วันพุธที่ 25 ตุลาคม 2560
- พระราชพิธีพระราชกุศลออกพระเมรุมาศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม 2560
- พระราชพิธีเชิญพระบรมศพไปพระเมรุมาศ - พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ
วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม 2560
- พระราชพิธีเก็บพระบรมอัฐิ ณ พระเมรุมาศ
วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2560
- พระราชพิธีพระราชกุศลพระบรมอัฐิ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2560
- พระราชพิธีเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ ขึ้นประดิษฐานพระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท
- พระราชพิธีบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #70 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:10:04 » |
|
2. เส้นทางขบวนพระบรมราชอิสริยยศ
เส้นทางการอัญเชิญพระบรมศพของขบวนพระบรมราชอิสริยยศ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทไปสู่พระเมรุมาศ หรืออัญเชิญพระบรมอัฐิจากพระเมรุมาศมาสู่พระบรมมหาราชวัง พระบรมราชสรีรางคารไปบรรจุ ตามโบราณราชประเพณี ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 26-29 ตุลาคม 2560 ซึ่งจะมีทั้งหมด 6 ริ้วขบวนด้วยกัน
ริ้วขบวนที่ 1 เชิญพระโกศทองใหญ่โดยพระยานมาศสามลำคาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ผ่านทางประตูเทวาภิรมย์ จากนั้นใช้เส้นทางถนนมหาราช เลี้ยวเข้าสู่ถนนท้ายวัง มุ่งไปยังถนนสนามไชย เชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ บริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (รวมระยะทาง 817 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
ริ้วขบวนที่ 2 เชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถโดยเกรินบันไดนาค จากหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไปทางถนนสนามไชย ยาตราขบวนแห่เชิญพระโกศทองใหญ่ จากถนนสนามไชย เข้าสู่ถนนราชดำเนินใน จากนั้นขบวนพระบรมราชอิสริยยศแห่เชิญพระโกศทองใหญ่เข้าสู่ท้องสนามหลวง (รวมระยะทาง 890 เมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)
ริ้วขบวนที่ 3 เชิญพระโกศทองใหญ่ลงจากพระมหาพิชัยราชรถโดยเกรินบันไดนาค ประดิษฐานพระโกศทองใหญ่บนราชรถปืนใหญ่ ตั้งขบวนพระบรมราชอิสริยยศเข้าสู่ราชวัติ เวียนพระเมรุมาศโดยอุตราวัฏ (เวียนซ้าย) 3 รอบ เวียนพระเมรุมาศครบ 3 รอบแล้ว เทียบราชรถปืนใหญ่ที่เกรินบันไดนาคพระเมรุมาศ เชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐาน ณ พระจิตกาธาน (รวมระยะทาง 260 เมตรต่อรอบ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
ริ้วขบวนที่ 4 เชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระที่นั่งราเชนทรยาน และเชิญพระบรมราชสรีรางคารขึ้นประดิษฐานในพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย จากพระเมรุมาศเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง เคลื่อนขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ พระบรมราชสรีรางคาร ขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย แยกเข้าวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคารพักไว้ที่พระศรีรัตนเจดีย์
ขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระโกศพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยาน เข้าประตูพิมานไชยศรี เชิญพระโกศพระบรมอัฐิจากพระที่นั่งราเชนทรยานเข้าสู่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ประดิษฐานที่บุษบกแว่นฟ้าทอง (รวมระยะทาง 1,074 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที)
ริ้วขบวนที่ 5 เชิญพระโกศพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (รวมระยะทาง 63 เมตร ใช้เวลาประมาณ 10 นาที)
ริ้วขบวนที่ 6 ขบวนกองทหารม้า เชิญพระบรมราชสรีรางคารจากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยรถยนต์พระที่นั่งออกจากพระบรมมหาราชวัง ทางประตูวิเศษไชยศรี ไปยังวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร ขบวนกองทหารม้า เชิญพระบรมราชสรีรางคาร จากวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร โดยรถยนต์พระที่นั่ง ไปบรรจุ ณ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #71 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:10:52 » |
|
3. การเข้าร่วมแสดงความอาลัยในเส้นทางริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระบรมศพ สำหรับประชาชนทั่วไป ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560
ประชาชนจะต้องเดินเท้าผ่านจุดคัดกรองจำนวน 9 จุด ได้แก่
- แยกสะพานมอญ
- ท่าช้าง
- มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- ศาลแม่พระธรณีบีบมวยผม
- ถนนกัลยาณไมตรี
- แยกสะพานช้างโรงสี
- แยกวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามวรมหาวิหาร
- ท่าพระจันทร์
- ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า
โดยจะต้องนำบัตรประชาชนมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ ไม่อนุญาตให้พกพาวัตถุโลหะที่อาจเป็นอันตรายเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และแนะนำให้พกเฉพาะสิ่งของจำเป็นเท่านั้น
เมื่อผ่านจุดคัดกรองแล้วประชาชนสามารถจับจองพื้นที่บริเวณทางเท้าริมถนนมหาราช ถนนสนามไชย และยาวถึงหน้าศาลหลักเมือง เฉพาะฝั่งตรงข้ามพระบรมมหาราชวังเท่านั้น โดยสามารถถ่ายภาพได้ด้วยความเหมาะสม ห้ามเซลฟี่ และไลฟ์สด หรือถ้าไม่สะดวกสามารถติดตามการถ่ายทอดสด หรือเข้าร่วมพิธีในสถานที่ที่มีการจัดสร้างพระเมรุมาศจำลอง และซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ได้ทั่วประเทศ (สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "เปิดจุดจับจองพื้นที่ ร่วมแสดงความอาลัย ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ 26 ต.ค.")
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #73 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:12:34 » |
|
5. พระเมรุมาศจำลองทั่วประเทศ
สำหรับสถานที่ตั้งพระเมรุมาศจำลองทั้ง 85 แห่ง ที่ประชาชนชาวไทยสามารถถวายดอกไม้จันทน์ได้อย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ โดยจัดตั้งอยู่ในอำเภอเมืองทั้ง 76 จังหวัด

รวมถึงยังมีซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ขนาดใหญ่ จำนวน 16 ซุ้ม ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ขนาดกลาง จำนวน 26 ซุ้ม และสถานที่จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ตามวัดต่าง ๆ ในพื้นที่กรุงเทพฯ 50 เขต จำนวน 62 แห่ง
(*** ทั้งนี้สามารถเข้าไปตรวจสอบรายชื่อสถานที่จัดพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ได้ที่ เว็บไซต์ kingrama9.th)
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #75 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:14:03 » |
|
7. เส้นทางปิดการจราจร
สำหรับประชาชนที่จะเดินทางร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปิดการจราจรรอบท้องสนามหลวงและห้ามนำรถยนต์ รถจักรยานยนต์ เข้าจอดตลอดเวลาทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งแต่วันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 ดังนี้
1. ถนนราชดำเนินใน 2. ถนนสนามไชย 3. ถนนหลักเมือง 4. ถนนกัลยาณไมตรี 5. ถนนเจริญกรุง 6. ถนนพระพิพิธ 7. ถนนท้ายวัง 8. ถนนมหาราช (ข้างพระบรมมหาราชวัง) 9. ถนนมหาราช (ข้างวัดพระมหาธาตุ) 10. ถนนพระจันทร์ 11. ถนนเศรษฐการ 12. ถนนเชตุพน 13. ถนนพระยาเพชร 14. ถนนหน้าพระลาน 15. ถนนหน้าพระธาตุ 16. ถนนราชินี 17. ถนนพระอาทิตย์ 18. ซอยสราญรมย์
(ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "ปิด 13 เส้นทางจราจร วันซ้อมใหญ่ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ")
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #76 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:14:46 » |
|
8. บริเวณพระเมรุมาศในหลวง รัชกาลที่ 9 จะยังคงเปิดให้เข้าชมเป็นเวลา 1 เดือน หลังเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ
รัฐบาลเตรียมเปิดให้ประชาชนเข้าชมความงดงามของพระเมรุมาศ ตลอด 1 เดือน หลังเสร็จสิ้นงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ เรื่องราวโครงการพระราชดำริ ตลอดจนเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ชื่นชมความงดงามของพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 1-30 พฤศจิกายน 2560
(สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ "รัฐบาลเตรียมเปิดให้ประชาชนชมความงาม พระเมรุมาศ ตลอดเดือน พ.ย. นี้")
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #78 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:16:09 » |
|
"พญาโศกลอยลม" เพลงโศกประจำชาติ ในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ
ทำความรู้จัก "พญาโศกลอยลม" เพลงที่ใช้ในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ถูกใช้เป็นเพลงโศกประจำชาติ ตั้งแต่สมัย ร.4 เตรียมบรรเลงอีกครั้ง 26 ต.ค. 60
การซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2560 หลายคนคงได้เห็นภาพทหารก้าวเท้าตามจังหวะเพลงในการอัญเชิญพระบรมโกศพระบรมศพ ซึ่งเพลงดังกล่าวมีชื่อว่า "พญาโศกลอยลม"
สำหรับ พญาโศก เป็นเพลงอัตราจังหวะ 2 ชั้น มีทำนองเก่าสมัยอยุธยา เป็นหนึ่งในเพลงเกร็ดที่ใช้ประกอบการแสดงโขนละครบทโศก สำหรับเพลงพญาโศก จะใช้ร้องในบทที่ตัวละครโศกเศร้าอยู่กับที่จะใช้ในบทที่เดินเคลื่อนที่ไม่ได้ นอกจากนี้ บทที่ร้องด้วยเพลงพญาโศกจะต้องเลือกฐานะของตัวละคร โดยมากจะเป็นตัวละครกษัตริย์ เจ้านาย หรือผู้มีบรรดาศักดิ์ชั้นสูง
ต่อมา พระประดิษฐ์ไพเราะ (มี ดุริยางกูร) ได้แต่งขยายขึ้นเป็นอัตราจังหวะสามชั้น เมื่อปลายรัชกาลที่ 4 เพื่อใช้เป็นเพลงบรรเลงและขับร้องในวงมโหรีและวงปี่พาทย์ รวมทั้งนำมาประดิษฐ์เป็นเพลงทางเดี่ยว ซึ่งนักดนตรีสมัยต่อมายึดเป็นแบบฉบับในการเดี่ยวด้วยเครื่องดนตรีต่าง ๆ เช่น พระยาภูมีเสวิน (จิตร จิตรเสวิน) แต่งสำหรับเดี่ยวซอสามสาย, จางวางทั่ว พาทยโกศล แต่งสำหรับเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ ระนาดเอก, นายสอนวงฆ้อง แต่งสำหรับเดี่ยวฆ้องวงใหญ่ นอกจากนี้ จ่าเอกมล (เจียน) มาลัยมาลย์ ได้แต่งทำนองสำหรับเดี่ยวระนาดเอกโดยขยายเป็นสี่ชั้น
ในปี พ.ศ. 2462 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่า สมัยนั้นไทยยังใช้เพลงต่างชาติในการเคลื่อนพระบรมศพหรือพระศพพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นสูง จึงทรงพระนิพนธ์เพลงพญาโศก สำหรับวงดุริยางค์ใช้บรรเลงถวายในงานพระศพของพระบรมวงศานุวงศ์ โดยทรงดัดแปลงเพลงพญาโศกที่เป็นดนตรีไทยให้เป็นตัวโน้ตดุริยางค์สากล
ทั้งนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงฟังแล้ว จึงเห็นว่าเหมาะสมแก่การอวมงคล และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้ครั้งแรกในการพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ประกาศให้เป็น "เพลงโศกประจำชาติ" ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา และยังทรงให้ใช้ได้ตั้งแต่การพระราชพิธีพระบรมศพ, พระศพเจ้านาย แม้กระทั่งงานศพสามัญชน
สำหรับประชาชนไทย จะได้ยินเสียงเพลงพญาโศกลอยลมอีกครั้ง ในการอัญเชิญพระบรมโกศพระบรมศพ ในริ้วขบวนอิสสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลภูมิพลอดุลยเดช วันที่ 26 ตุลาคม 2560
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #80 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:17:41 » |
|
2.ความพอดี ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไป ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับสูงขึ้น ตามต่อกันไปเป็นลำดับ ผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน . พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 18 ธันวาคม 2540
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #81 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:18:22 » |
|
3.ความรู้ตน เด็กๆ ทำอะไรต้องหัดให้รู้ตัว การรู้ตัวอยู่เสมอจะทำให้เป็นคนมีระเบียบและคนที่มีระเบียบดีแล้ว จะสามารถเล่าเรียนและทำการงานต่างๆ ได้โดยถูกต้องรวดเร็ว จะเป็นคนที่จะสร้างความสำเร็จและความเจริญ ให้แก่ตนเองและส่วนรวมในอนาคตได้อย่างแน่นอน . พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือ วันเด็ก ประจำปี 2521
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #82 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:19:04 » |
|
4.คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ คนเราจะเอาแต่ได้ไม่ได้ คนเราจะต้องรับและจะต้องให้ หมายความว่าต่อไป และเดี๋ยวนี้ด้วยเมื่อรับสิ่งของใดมา ก็จะต้องพยายามให้ ในการให้นั้น ให้ได้โดยพยายามที่จะสร้างความสามัคคีให้หมู่คณะและในชาติ ทำให้หมู่คณะและชาติประชาชนทั้งหลายมีความไว้ใจซึ่งกันและกันได้ ช่วยที่ไหนได้ก็ช่วย ด้วยจิตใจที่เผื่อแผ่โดยแท้ . พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่น วันที่ 20 เมษายน 2521
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #83 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:19:45 » |
|
5.อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ในวงสังคมนั้นเล่า ท่านจะต้องรักษามารยาทอันดีงามสำหรับสุภาพชน รู้จักสัมมาคารวะ ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ พร้อมจะเสียสละประโยชน์ส่วนตัวเพื่อส่วนรวม . พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 25 มิถุนายน 2496
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #84 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:20:28 » |
|
6.พูดจริงทำจริง ผู้หนักแน่นในสัจจะพูดอย่างไร ทำอย่างนั้น จึงได้รับความสำเร็จ พร้อมทั้งความศรัทธาเชื่อถือและความยกย่องสรรเสริญ จากคนทุกฝ่าย การพูดแล้วทำ คือ พูดจริง ทำจริง จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมเกียรติคุณของบุคคลให้เด่นชัด และสร้างเสริมความดี ความเจริญ ให้เกิดขึ้นทั้งแก่บุคคลและส่วนรวม . พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันที่ 10 กรกฎาคม 2540
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #85 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:21:09 » |
|
7.หนังสือเป็นออมสิน หนังสือเป็นการสะสมความรู้และทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ได้สร้างมา ทำมา คิดมา แต่โบราณกาลจนทุกวันนี้ หนังสือจึงเป็นสิ่งสำคัญ เป็นคล้ายๆ ธนาคารความรู้และเป็นออมสิน เป็นสิ่งที่จะทำให้ มนุษย์ก้าวหน้าได้โดยแท้ . พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะสมาชิกห้องสมุดทั่วประเทศ ในโอกาสที่เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท วันที่ 25 พฤศจิกายน 2514
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #86 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:21:49 » |
|
8.ความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์สุจริตเป็นพื้นฐานของความดีทุกอย่าง เด็กๆ จึงต้องฝึกฝนอบรมให้เกิดมีขึ้นในตนเอง เพื่อจักได้เติบโตขึ้นเป็นคนดีมีประโยชน์ และมีชีวิตที่สะอาด ที่เจริญมั่นคง . พระบรมราโชวาท พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็ก ปี พุทธศักราช 2531
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #87 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:22:58 » |
|
9.การเอาชนะใจตน ในการดำเนินชีวิตของเรา เราต้องข่มใจไม่กระทำสิ่งใดๆ ที่เรารู้สึกด้วยใจจริงว่าชั่วว่าเสื่อม เราต้องฝืนต้องต้านความคิดและความประพฤติทุกอย่างที่รู้สึกว่าขัดกับธรรมะ เราต้องกล้าและบากบั่นที่จะกระทำสิ่งที่เราทราบว่าเป็นความดี เป็นความถูกต้อง และเป็นธรรม ถ้าเราร่วมกันทำเช่นนี้ ให้ได้จริงๆ ให้ผลของความดีบังเกิดมากขึ้นๆ ก็จะช่วยค้ำจุนส่วนรวมไว้มิให้เสื่อมลงไป และจะช่วยให้ฟื้นคืนดีขึ้นได้เป็นลำดับ . พระราชดำรัส พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่าน ในพิธีเปิดการประชุมยุวพุทธิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ 12 ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 12 ธันวาคม 2513
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก kapook.com
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #88 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:24:06 » |
|
 น้อมกราบแทบฝ่าพระบาท พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระภัทรมหาราช
ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไปด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
apichoke Administrator goodrich รองAdmin
cane Webmaster
ผู้บริหาร ทีมงาน สมาชิก apichoke.biz aey ผู้ช่วย Webmaster เค ผู้ช่วยWebmaster ✮♡mimmy111~♡✮ ผู้ช่วย Webmaster
@♦อุ๋ยโหย๋♦@ผู้ดูแลบอร์ด surathan ผู้ดูแลบอร์ด tiger6844 ผู้ช่วยผู้ดูแลบอร์ด muk ผู้ช่วย ผอ.ประชาสัมพันธ์
•❤..นกน้อย..❀ Senior Public Relation noofha Senior Public Relation kookkik Public Relation
อาจารย์มงกุฏเพชร C8 *$[sorn_bu]$* KohZa Mr.march guy amornrith อภิริยะนรตี ศรีเทพ
อาจารย์มงกุฏทอง C7 $$vasinn$$ pongpet พันเสด็จ นามธรรม ƸӜƷvinƸӜƷ ••÷สิมิลัน÷•• * waru_san *
สมาชิกระดับอาจารย์ C6 •۩♥。Farazi。♥۩• หนุ่มสุพรรณ manila พายุ chawarit57 LLC n_uthong Mr.M@N
สมาชิกระดับอาจารย์ C5 Ston sh.one
อาจารย์ นักคานวณ sumerurach Hero Member C6 chada Sophomore2 Mor Alam Sophomore2 pin1952 Junior3 Julong Junior3 กระดิ่งลายสก็อต Freshy1
สมาชิกห้องหวยซองอภิโชคดอทบิซ asoke vicky07 ganyarat62 Dekdoy tumm Kasara-11 yoke kingone maple vichuta vee1 hi.chainarong jaderayong wi_kho สมนึก sumerurach KitTaPorn@kng phetti panner thailot plubplung wasan23 ladapa ทองสร้อย pahon kingone มีนา su_kit vee89 fantar kapaman ☆☊❀ Pinky❀ ☊☆ savipak sema teen junejune pig456 กระดิ่งลายสก็อต kaew praha tu11 Chongco w Mor Alam chary007 mamavivi bobo plu ม้ามืด @จีจี้@ Duckman Chongco maruf rahman jeeranun1968 magadoung ganyarat62 live2009
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
cane13
บุคคลทั่วไป
|
 |
« ตอบ #89 เมื่อ: 13 ตุลาคม 2017, 22:25:24 » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|