(http://upic.me/i/2z/i0a2a.jpg) (http://upic.me/show/26937146)
พระราชประวัติ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
(http://upic.me/i/1s/0a2aaaa.jpg) (http://upic.me/show/26937366)
ทรงพระราชสมภพ เมื่อวันศุกร์ที่ ๑๒ สิงหาคม พุทธศักราช ๒๔๗๕
ที่บ้านพลเอกเจ้าพระยาวงศานุประพันธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์)
ผู้เป็นบิดาของหม่อมหลวงบัว ณ บ้านเลขที่ ๑๘๐๘
ถนนพระรามหก ตำบลวังใหม่ อำเภอปทุมวัน จังหวัดพระนคร
ขณะนั้น เป็นระยะที่ประเทศเพิ่งเปลี่ยนแปลง การปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
เป็นระบอบประชาธิปไตย ก่อนหน้านั้นพระบิดาของพระองค์
ทรงดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก มียศเป็นพันเอกหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร
หลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครองในวันที่ ๒๔ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๕
หม่อมเจ้านักขัตรมงคลต้อง ทรงออกจากราชการทหาร
โดยรัฐบาลแต่งตั้งให้ ไป รับราชการในตำแหน่งเลขานุการเอก
ประจำสถานทูตสยาม ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา
ส่วนหม่อมหลวงบัว ยังคงพำนักอยู่ในประเทศไทย จนให้ กำเนิดหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์
แล้วจึงเดินทางไป
สมทบมอบหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ให้ อยู่ในความดูแลของเจ้าพระยาวงศา นุประพันธ์
และ ท้าววนิดา พิจาริณี ผู้เป็นบิดาและ มารดาของหม่อมหลวงบัว
หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ต้องอยู่ห่างไกลพระบิดามารดาตั้งแต่อายุพียงน้อยนิด
บางคราวต้องระหกระเหินไป ต่างจังหวัดกับพระบรมวงศานุวงศ์
ตามเหตุการณ์ผันผวนทางการเมือง เช่น ในปีพุทธศักราช ๒๔๗๖
หม่อมเจ้าอัปษรสมาน กิติยากร พระมารดาของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล
ได้ ทรงรับนัดดาตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวไป สงขลาด้วย
ปลายปีพุทธศักราช ๒๔๗๗ หม่อมเจ้านักขัตรมงคล
ทรงลาออกจากราชการ กลับประเทศไทยพร้อมครอบครัว
อันมีหม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์บุตรคนโตและ
หม่อมราชวงศ์บุษบาบุตรีคนเล็กผู้เกิดที่สหรัฐอเมริกา
แล้วมารับหม่อมราชวงศ์อดุลยกิติ์บุตรคนรอง
กับหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์จากหม่อมเจ้าอัปษรสมาน
กลับมาอยู่รวมกันที่ตำหนักซึ่งตั้งอยู่ที่
ถนนกรุงเกษม ปากคลองผดุงกรุงเกษม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
(http://upic.me/i/23/0a2aaaa.jpg) (http://upic.me/show/26938215)
หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เริ่มเรียนชั้นอนุบาลที่โรงเรียนราชินี
ปากคลองตลาดในพุทธศักราช ๒๔๗๙
แต่เมื่อสงครามมหาเอเชียบูรพาลุกลามมาถึงประเทศไทย
จังหวัดพระนครถูกโจมตีทางอากาศบ่อย ๆ ทำให้ การเดินทางไม่สะดวกและ ปลอดภัย
หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ จึงต้องย้ายไป โรงเรียนที่โรงเรียนเซ็นต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์
และ ในเวลาต่อมาได้ตั้งใจที่จะเป็นนักเปียโนผู้มีชื่อเสียง
หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เผชิญสภาพของสงครามโลกเช่นเดียวกับคนไทยทั้งหลาย
พระบิดาผู้ ทรงเป็นทหารเป็นผู้ปลูกฝังให้ บุตร และ บุตรีรู้จักความมีวินัย ความอดทน
ความกล้าหาญ และ ความเสียสละ
โดยอาศัยเหตุการณ์ในสงครามเป็นตัวอย่าง
และ สงครามก็ทำให้ ผู้คนต้องหันหน้าเข้าช่วยเหลือกันในยามทุกข์ยาก
สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์มีความเมตตาต่อผู้อื่น
และ รักความมีระเบียบแบบแผนมาตั้งแต่เยาว์วัย
หลังจากสงครามสงบแล้ว นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น คือ นายควง อภัยวงศ์
ได้แต่งตั้งให้ หม่อมเจ้านักขัตรมงคลเป็นรัฐทูตวิสามัญ
และ อัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็มประจำสำนักเซ็นต์เจมส์ ประเทศอังกฤษ
หม่อมเจ้านักขัตรมงคลจึง ทรงพาครอบครัวทั้งหมดไป ด้วยในกลางปีพุทธศักราช ๒๔๘๙
ขณะนั้นหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ เรียนจบชั้นมัธยมปีที่ ๓
ของโรงเรียนเซ็นต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์แล้ว
ระหว่างที่อยู่ในประเทศอังกฤษ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ตั้งใจเรียนเปียโน ภาษาอังกฤษ
และ ภาษาฝรั่งเศสกับครูพิเศษ แต่อยู่อังกฤษได้ไม่นาน
หม่อมเจ้านักขัตร มงคลก็ ทรงย้ายไป ประเทศเดนมาร์กและ ประเทศฝรั่งเศสตามลำดับ
ระหว่างนี้หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ยังคงตั้งใจเรียนเปียโนอย่างขะมักเขม้น
เพื่อเตรียมสอบเข้าวิทยาลัยการดนตรีที่มีชื่อเสียงของกรุงปารีส
(http://upic.me/i/33/d0a2a.jpg) (http://upic.me/show/26938454)
พุทธศักราช ๒๔๙๑ ขณะที่หม่อมเจ้านักขัตรมงคลและ ครอบครัวอยู่ในปารีส
ได้รับเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
ซึ่งโปรดเสด็จพระราชดำเนินไป ทอดพระเนตรโรงงานทำรถยนต์ในกรุงปารีสอยู่เสมอ
จนเป็นที่คุ้นเคยต่อพระยุคลบาทและ ต้องพระราชอัธยาศัย
ฉะนั้นเมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประสบอุปัทวเหตุทางรถยนต์
ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ต้องประทับรักษาพระองค์ในสถานพยาบาล
จึง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ หม่อมหลวงบัวพาบุตรีทั้งสอง
คือหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ และ หม่อมราชวงศ์บุษบา เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาท
เยี่ยมอาการเป็นประจำ จนพระอาการประชวรทุเลาลง เสด็จกลับพระตำหนักได้
สมเด็จพระราชชนนีได้รับสั่งขอให้
หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์อยู่ศึกษาต่อที่เมืองโลซานน์ในโรงเรียนประจำ Riante Rive
ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในการสอนวิชาพิเศษแก่กุลสตรี
คือ ภาษา ศิลปะ ดนตรี ประวัติวรรณคดี และ ประวัติศาสตร์
(http://upic.me/i/z6/560a2.jpg) (http://upic.me/show/26938575)
ต่อมาอีก ๑ ปี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ หม่อมเจ้านักขัตรมงคลและ ครอบครัวมาเฝ้าฯ
แล้วสมเด็จพระราชชนนีรับสั่งขอหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ต่อหม่อมเจ้านักขัตรมงคล
และ ประกอบพระราชพิธีหมั้นอย่างเงียบ ๆ
ในวันที่ ๑๙ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๙๒ ทรงใช้พระธำมรงค์ที่สมเด็จพระราชบิดา
ทรงหมั้นสมเด็จพระราชชนนี เป็นพระธำมรงค์หมั้น
แล้วคงให้ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ศึกษาต่อไป จนเสด็จนิวัตพระนคร
จึงโปรดเกล้าฯ ให้ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ตามเสด็จ
กลับมาถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล
ในเดือนมีนาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓
(http://upic.me/i/yw/0a2aa.jpg) (http://upic.me/show/26938679)
(http://upic.me/i/hx/fr0a2.jpg) (http://upic.me/show/26939176)
วันที่ ๒๘ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ มีพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม
สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
ทรงเป็นประธานพระราชทานน้ำพระพุทธมนต์และ เทพมนต์
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์
ได้ ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย
และ ในวันนั้นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้
ทรงสถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เป็นสมเด็จพระราชินี
วันที่ ๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๙๓ เป็นวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเฉลิมพระบรมนามาภิไธยว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”
และ ทรงสถาปนาเฉลิมพระยศสมเด็จพระราชินีเป็น
“สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี”
วันที่ ๕ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๙๓ ทั้งสองพระองค์เสด็จกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เพราะแพทย์ผู้รักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
กราบบังคมทูลแนะนำให้ ทรงพักรักษาพระองค์อีกระยะหนึ่ง
(http://upic.me/i/t8/iy0a2.jpg) (http://upic.me/show/26939055)
พุทธศักราช ๒๔๙๔ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
มีพระประสูติกาลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ
ณ เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เมื่อเจริญพระชันษาได้ ๗ เดือน ทั้งสามพระองค์จึงเสด็จนิวัตประเทศ
ประทับ ณ พระที่นั่งอัมพรสถานพระราชวังดุสิต
หลังจากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าวชิราลงกรณ์ฯ
ซึ่งต่อมา ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนราชสุดาฯ
ซึ่งต่อมา ทรงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ฯ ได้ประสูติต่อมาตามลำดับ
ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน รวมพระราชโอรสและ พระราชธิดา ๔ พระองค์
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ได้ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่เป็นลำดับมา
ทั้งในฐานะที่ ทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชินีของไทยและ
ในฐานะคู่พระราชหฤทัยแห่งพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว กล่าวคือ
ทรงช่วยแบ่งเบาพระราชภาระทั้งหลายไป ได้มาก
อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ทรัพยากรธรรมชาติ
และ การพัฒนาประเทศอยู่เนือง ๆ
เห็นได้ชัดจากพระราชกรณียกิจที่เผยแพร่สู่สายตาประชาชนอยู่ทุกวันนี้
(http://upic.me/i/ky/queen.jpg) (http://upic.me/show/26833044)
คำขวัญวันแม่ ปี 2554
(http://upic.me/i/43/439863vldufsl9vi.gif) (http://upic.me/show/2714438)
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
พระราชทานคำขวัญเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติ2554
"เพลงชาติไทย เตือนไทย ไว้เช้าค่ำ
ให้จดจำ จารึก ไว้ทุกส่วน
จะดำรง คงไทย ได้ทั้งมวล
ด้วยไทยล้วน หมายรัก สามัคคี"
(http://upic.me/i/d3/2057398jhl6f0a9fa.gif) (http://upic.me/show/10617397)
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2544 "พระองค์แรกผู้แสนดีให้ชีวิต ครูคนแรกผู้ประสิทธิ์การศึกษา
สองหัตถ์โอบนคราพาร่มเย็น รวมคุณค่านี้ได้แก่แม่เราเอง"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2545 "แม่คือพระประจำอยู่ในบ้าน บูชาท่านไว้เถิดเกิดมิ่งขวัญ
พระคุณแม่เลิศล้ำเกินรำพัน แม่จึงเป็นคนสำคัญทุกวันไป"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2546 "สามร้อยหกสิบห้าวันคือวันแม่ มิใช่แค่วันใดให้นึกถึงสม่ำเสมอสมัครจิตคิดคำนึง
เหมือนแม่ซึ่งรักลูกครบทุกวัน"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2547 (http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี
ประทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติปีนี้ความว่า
"แม่คือผู้ให้ ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนใดใด
นอกจากความรักความเข้าใจจากลูก"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ
ประทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติปีนี้ความว่า
"แม่ไม่อาจอยู่กับลูกได้ชั่วชีวิต
ควรสอนให้เขารู้จักคิดและเลือกปฏิบัติในทางที่ถูกต้อง"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2548 "ดุจดังแม่ผู้ประเสริฐบังเกิดเกล้า เลี้ยงเราทุกคนมาจนใหญ่
ทุกคำข้าวคือสินแผ่นดินไทย ควรตรองใจทดแทนคุณแผ่นดิน"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2549 "รักในหลวงพร้อมใจใส่เสื้อเหลือง รักบ้านเมืองจงน้อมใจให้สร้างสรรค์
ใส่สีเดียวแล้วใจเดียวกลมเกลียวกัน รักเช่นนั้นชาติของตนจึงพ้นภัย"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2550 "ข้าวในนาปลาในน้ำคำโบราณ คือตำนานความอุดมสมบูรณ์สิน
ฝากลูกไทยร่วมห่วงแหนรักแผ่นดิน ถนอมไว้อย่าให้สิ้นแผ่นดินไทย"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2551 "เมื่อเกิดมาอาศัยถิ่นแผ่นดินไหน ควรมีใจกตัญญูรู้คุณถิ่น
หากคนไทยรู้ตอบแทนคุณแผ่นดิน จักไม่มีวันสิ้นแผ่นดินไทย"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2552 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี 2553 ความว่า
"แผ่นดินนี้ปู่ย่าตายายสร้าง เคยทอดร่างลงถมถิ่นแผ่นดินแม่
ขอลูกไทยรักษามั่นไม่ผันแปร เป็นไทยแท้มิใช่ไทยแต่ในนาม"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2553 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี 2553 ความว่า
"แผ่นดินนี้แม่ของลูกใช้ปลูกข้าว กี่แสนก้าวที่เดินซ้ำย่ำหว่านไถ
บำรุงดินจนอุดมสมดังใจ หวังนาไทยเป็นของไทยไปนิรันดร์"
(http://upic.me/i/ov/0f4845b4206f565a361f15baf10a1523.jpg) (http://upic.me/show/26923493)
คำขวัญวันแม่ ประจำปี 2554 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี 2554 ความว่า
"เพลงชาติไทยเตือนไทยไว้เช้าค่ำ
ให้จดจำจารึกใจไว้ทุกส่วน
จะดำรงคงไทยได้ทั้งมวล
ด้วยไทยล้วนหมายรักสามัคคี"
(http://upic.me/i/43/439863vldufsl9vi.gif) (http://upic.me/show/2714438)
(http://lh6.ggpht.com/_eExCYLlliEg/Sm1iYEAkc3I/AAAAAAAAAyM/1GGwFcOeMXU/s800/m7.jpg)
12 สิงหา วันมหาราชินี
เหล่าทวยราษฎร์ขอสดุดีให้ก้องหล้า
เป็นตัวอย่างพระแม่แห่งมวลประชา
ขอพระชนมพรรษายิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า QQ สมาชิก Apichoke.biz ค่ะ
http://www.fhqhosting.com/ui/12%5B1%5D.%A4%E8%D2%B9%E9%D3%B9%C1.swf